4198 Views |
ในปัจจุบันการเล่นระบบโฮม เธียเตอร์ แบบเซอร์ราวน์ดแนวดิ่งเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น แต่การจัดระบบที่มีลำโพงเพดานเป็นอีก 2-4 แชนเนล จะต้องเลือกลำโพงหลัก และลำโพงเพดาน ให้มีความสมดุลกัน อีกทั้งระบบของรีซีฟเวอร์จะต้องมีรูปแบบการปรับอัตโนมัติที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ครั้งนี้ผมจะขอแนะนำชุดซิสเต็ม Dolby Atmos 5.1.2 ให้เพื่อนสมาชิก LE ได้พิจารณา ซึ่งการเสริมให้เป็น 5.1.4 หรือ 7.1.4 ก็สามารถทำได้ แต่ในห้องขนาดย่อมโดยทั่วไปที่ไม่เกิน 20 ตารางเมตรนั้น จะเหมาะกับชุด 5.1.2 คือถือว่า การสร้างเพดานเสียงแนวดิ่ง หรือเบื้องสูง ด้วยลำโพงเพดานเพียงสองแชนเนลก็พอเพียงครับ เพราะด้วยระบบการทำงานของ Dolby Atmos นั้น จะสามารถเกลี่ยสัญญาณได้ทั่วถึง ด้วยการใช้ DSP ในวงจรอย่างเหมาะสม
ผมมีโอกาสได้มาทดสอบระบบเสียงชุดโฮม เธียเตอร์ Dolby Atmos ระบบเสียง 5.1.2 ที่ Conice สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า ในวันหนึ่งที่แสนสบาย และได้รับการช่วยเหลือในการเซ็ตอัพจากน้องๆที่โชว์รูมอย่างดียิ่ง และนี้คือชุดซิสเต็มที่อยากแนะนำครับสำหรับการเริ่มต้น ก้าวเข้าสู่ระบบเสียงรอบทิศทางรอบทิศแบบ Dolby Atmos ซึ่งประกอบด้วยศูนย์กลางของซิสเต็ม รีซีฟเวอร์ที่จัดว่าเป็นสุดยอด ด้วยโปรแกรมปรับแต่งระบบ Dirac Live
ใช่แล้วครับ ตัวเครื่อง คือ NAD T 758 V3 ด้วยสนนราคาที่น่าทึ่ง เพียงแค่ห้าหมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง แต่มีโปรแกรมเซ็ตอัพปรับค่าอะคูสติคชั้นยอดที่ใช้อยู่ในรีซีฟเวอร์ระดับแสนบาทขึ้นไป โปรแกรมที่ว่า คือโปรแกรมปรับแต่ง Dirac Live ถือเป็นสุดยอดที่สามารถปรับได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด โดยปรับจากคอมพิวเตอร์ (ทางโคไน้ซ์ฯมีบริการปรับให้ทุกท่านที่ซื้อ)
ภาคขับกำลัง 110 วัตต์ในโหมดสเตอริโอ หรือระบบมัลติ-แชนเนล 7x60W (0.05% THD, 20-20 kHz) นี่คือกำลังขับในระดับอเมริกันสแตนดาร์ดนะครับ เป็นมาตรฐานกำลังขับที่สูงกว่ารีซีฟเวอร์ทั่วไป ไม่ใช่แบบที่วัดกันแบบเอาตัวเลขสูงๆอย่างเดียว แต่คำนึงถึงกำลังขับที่ใช้งานจริง (มีกำลังสำรองระดับหนึ่งเท่าตัวเลยนะครับ) ให้การตอบสนองระบบภาพแบบ 4K Ultra HD, การ Preset ค่าการปรับแต่งหลากรูปแบบ T758 V3 ล่าสุดนี้มีการบรรจุระบบ Wireless Streaming BluOS เข้าไว้ในตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้คุณสามารถที่จะสตรีมเสียงเพลงไฮ-เรส Lossless ได้ในทันทีโดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ระบบเสียงรอบทิศ อ็อพเจ็คท์เบส HD Dolby Atmos และ DTS Master Audio DTS:X ตอบสนองต่อเสียงแบบไฮ-เรสทุกรูปแบบ รวมถึง MQA
NAD T758 V3 ตอบสนองต่อระบบ Ultra HD 4K 3840x2160 พิกเซล ที่ 60 เฟรมต่อวินาที 4:4:4 gamut และรองรับระบบ HDR ให้ภาพชัดเข้มคมลึก กับการดูภาพยนตร์รายละเอียดสูง เป็นแอมป์เสียงรอบทิศทางที่ทรงคุณค่าที่สุด ที่บรรดานักติดตั้งระบบล้วนให้การยกย่อง
ส่วนชุดลำโพงที่จัดไว้ คือ PSB ซีรีส์ใหม่นี้เองครับ ซึ่งประกอบด้วยลำโพงหน้า PSB Alpha T20 แบบตั้งพื้น Floor Standing ลำโพงเซ็นเตอร์ PSB Alpha C10 และลำโพงเซอร์ราวน์ด PSB Alpha P5 ลำโพงเพดานสำหรับสนองตอบ Dolby Atmos DTS:X ใช้ลำโพงติดตั้งฝังเพดาน PSB CS 610 In Ceiling ทั้งหมดนี้ อยู่ในหลักการที่ว่า หากต้องการคุณภาพเสียงเป็นเวทีเดียวกัน ควรเลือกลำโพงแบรนด์เดียวกัน เพราะได้บุคลิกที่เสมอกัน พร้อมด้วย Sub-Woofer ของ Velodyne Wi-Q10 ที่พร้อมให้เสียงต่ำลึกอย่างทรงประสิทธิภาพอย่างที่สุด
เรามาพิเคราะห์ลำโพงหลักคู่หน้ากันนะครับ นั่นคือ
PSB Alpha T20 ให้เสียงที่มีคุณภาพสูงสุดในซีรีส์อัลฟ่ารุ่นใหม่นี้ และเป็นลำโพงทาวเวอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มวูฟเฟอร์ขนาด 5.25 นิ้ว ในขณะที่ใช้ทวีตเตอร์สิทธิบัตรและการออกแบบครอสส์โอเวอร์ของ Alpha Series ใช้ทวีตเตอร์ โดมอะลูมิเนียม สีดำขนาด 0.75 นิ้ว เพื่อขยายการเรนจ์การตอบสนองความถี่สูงได้มากยิ่งขึ้น
PSB Alpha C10 ลำโพงที่ใช้ทวีตเตอร์ โดมอะลูมิเนียม สีดำขนาด 0.75 นิ้ว เพื่อขยายการตอบสนองความถี่สูงมากยิ่งขึ้น ทวีตเตอร์ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เน้นการระบายความร้อนด้วยสารแม่เหล็กเหลวและแม่เหล็กนีโอไดเมียม ไดรเวอร์เสียงกลาง/ต่ำ ตัวกรวยผลิตจากโพลีย์โพรไพย์ลีน
ส่วนลำโพงเซอร์ราวน์ดหลัก เป็น PSB Alpha P5 ลำโพง Bookshelf ขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ล่าสุดจาก PSB ที่เราเคยทดสอบไปแล้ว
สำหรับ PSB CS 610 เป็นลำโพงติดฝ้าหรือผนังแบบสอง-ทาง วูฟเฟอร์แบบคาร์บอน โพลีย์โพรไพย์ลีน ขนาด 6-1/2 นิ้ว ทวีตเตอร์ โดมอะลูมิเนียมขนาด 3/4 นิ้ว
Velodyne Wi-Q10 นี่คือสับ-วูฟเฟอร์ แบบ Wireless Sub-Woofer ที่ใช้ได้ทั้งแบบไร้สาย และแบบสายต่อ มาพร้อมกับพลังขับในตัวเอง 195 วัตต์ กรวยวูฟเฟอร์ยิงเสียงออกด้านหน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว มีท่อระบายอากาศอยู่ด้านล่างของตัวตู้ ตอบสนองความถี่อยู่ในช่วง 28-120 เฮิทซ์ สามารถเลือกปรับค่าให้มีจุดตัดความถี่ต่ำได้ตั้งแต่ 40-135 เฮิทซ์
การทดสอบฟัง และชมจากภาพยนตร์ 4K
ผมต้องเรียนว่าการทดสอบหลักๆของผม ได้รับความสะดวกจากทาง Conice อัมรินทร์ พลาซ่า เป็นอย่างดี น้องโจและทีมได้ทำการตรวจสอบ เช็คระบบ และเซ็ตอัพ ด้วยโปรแกรม Dirac Live มีความลงตัวดีทุกประการ ทำให้ได้ความสมบูรณ์สูงสุดของซิสเต็ม
ในการเซ็ตอัพนั้น ทาง Conice จะไปทำการเซ็ตให้สำหรับท่านที่ซื้อ NAD T758 V3 เพื่อความสะดวก หรือจะทำการเรียนรู้ระบบโปรแกรมแล้วปรับเองก็ได้ครับ มีความสลับซับซ้อนบ้าง แต่ไม่ยากจนเกินไปครับ
ภาพยนตร์เรามีอ้างอิงจากภาพยนตร์สตรีมมิงของ Apple TV และแผ่นบลู-เรย์ ดิสค์ 4K ซึ่งผมจะเน้นแผ่นที่คิดว่าดีที่สุดในการทดสอบ นั่นคือ Star Wars: The Last Jedi มีครบรสทั้งแอ็คชัน แฟนตาซี ดราม่า ในเรื่องเดียว เอฟเฟ็คท์ทั้งภาพและเสียง ถือว่าเข้าขั้นสุดยอด เมื่อเปรียบเทียบแผ่นอื่นๆ ในการถ่ายทอดระบบเสียงแบบ Dolby Atmos นั้น ต้องบอกว่าให้คุณภาพถึงที่สุดเลยครับ
ส่วนแผ่นบลู-เรย์ คอนเสิร์ต ระบบเสียง Dolby Atmos ผมใช้แผ่น Hans Zimmer: Live in Prague 2017 เป็นแผ่นหลัก ซึ่งบันทึกเสียงได้ครบถ้วน ในบรรยากาศการแสดงคอนเสิร์ตในแบบฉบับของดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่เราคุ้นเคย
การให้พลังเสียงในแบบฉบับของภาคขยายที่ดีที่สุดในวงการเครื่องเสียง ผมยอมรับว่ารีซีฟเวอร์ NAD T758 V3 นั้น ถือว่าถอดแบบภาคขยายเพาเวอร์ของ NAD มาครบถ้วนจริงๆ พลังในการส่งต่อราบรื่นต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องชมเชยอันดับแรก คือการสวิงของเสียง ที่มาพร้อมกันทั้งเสียงเอฟเฟ็คท์ และเพลงประกอบที่ใช้วงออร์เคสตราบรรเลงในภาพยนตร์
ในการทดสอบเหมือนเรากำลังฟังภาคขยายแชนเนลละ 150 วัตต์ก็ไม่ปาน เพราะไดนามิคเสียงสุดยอดจริงๆครับ อันนี้ต้องชมทีมออกแบบของ NAD เลยครับ ฝีไม้ลายมือเข้าขั้น “แถวหน้าแห่งวงการ” ในสถานะการทำหน้าที่ของรีซีฟเวอร์ NAD T758 V3 ให้การแสดงผลการแยกแยะระหว่างดนตรีวงยักษ์ที่บรรเลงอยู่ กับบรรยากาศการต่อสู้บนห้วงอวกาศ อันดุเดือด สามารถดึงห้วงอารมณ์ ทุกความรู้สึกให้หลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ภาพยนตร์อย่างง่ายดาย และที่ต้องบอกก็คือ กำลังขับสำรองของรีซีฟเวอร์ดีมากครับ แม้จะบอกกำลังขับแบบถ่อมตัว แต่ความจริงในทางปฏิบัติ กำลังขับสำรองซ่อนรูปครับ ให้ความอิ่มแน่นของเสียง ฟังเมื่อไร ร้อง อื้อฮือ...หนักแน่นทุกความถี่ เป็นเครื่องบ่งบอกว่า เครื่องนั่นมีพลังมากมาย ขยายขอบเขตเสียงได้เต็มพื้นที่จริงๆ
“เชื่อมั่นในพลัง เชื่อมั่นใน NAD” ผมมั่นใจเช่นนี้เสมอละครับ
รายละเอียดการแยกแชนเนลและแสดงเวทีโอบล้อม เพดานเสียงด้านบน มีความแม่นยำ และครอบคลุมพื้นที่อย่างดี ฉากต่อสู้ของ Ray Luke Skywalker กับตัวร้าย อย่าง Kylo Ren ดูตื่นตาตื่นใจ เสียงดาบเลเซอร์สัมผัสกัน ทำได้เข้าถึงอานุภาพที่ร้อนแรง เสียดแทง ได้อย่างครบถ้วน ในฉากที่เรย์มีนิมิตถึงเร็น จากช่วงที่นำเสนอ การวูบลงไปในหลุมดำและเผชิญฝ่ายตรงข้าม แบบ Face to Face เอฟเฟ็คท์เสียงโอบล้อม ดูมีพลังจริงจังมากแบบซึมเข้าขุมขน เพราะย่านความถี่ต่ำโอบจากล่างขึ้นบน โดยสับ-วูฟเฟอร์ Velodyne Wi-Q10 ตู้ขนาดกลางๆ แต่คุมความถี่ต่ำลึกได้น่าทึ่งจริงๆ ฟังจากเสียงผมนึกว่าใช้ถึงสองตู้ด้วยซ้ำไป ในความจริง ตู้เดียวเอาอยู่ครับ!
ที่ผมรู้สึกประทับใจมากที่สุด ก็น่าจะเป็นผลงานเพลงประกอบของนักประพันธ์เพลง John Williams ที่กลับมาทำหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่งผ่านความอิ่มเอิบ ตื่นเต้นจริงจังไปยังลำโพง PSB ทั้งชุดให้ถ่ายทอดมาอย่างสวยงาม ดูไปฟังไปเหมือนรำพึงกับตัวเอง ว่าสวยงามเหลือเกิน....
เพราะเหมือนดูหนังไปพร้อมกับฟังวงออร์เคสตราชั้นเยี่ยมเลยละครับ เก็บเอาความลึกซึ้งที่บรรเลงรมย์ได้เต็มประสิทธิภาพ ลำโพงซีรีส์ Alpha ใหม่ ให้สเกลของเสียงโดยรวมดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าอย่างมาก ทั้งในแง่รายละเอียดและค่าไดนามิค การตอบรับกับระดับเสียง Peak กับเสียง Dolby Atmos ภาพยนตร์ที่ต้องการพลังเสียงให้เต็มอัตราศึกแบบ Star Wars แบบนี้ ลำโพงเองต้องสามารถทำงานตอบรับกันอย่างคล้องจองด้วย ซึ่ง PSB Alpha T20, Alpha C10 และ Alpha P5 ถือว่าสร้างเวทีเสียงออกมาได้ Full และต่อเนื่องส่งเสริมกันและกันมาก สอดรับได้ตลอดทุกช่วง ทั้งเสียงที่ผ่อนหนักเบา เป็นระลอกๆอย่างสวยงาม เป็นซิสเต็มลำโพงที่ออกแบบมาให้มีศักยภาพเหมาะสม ทั้งต่อการดูหนังและฟังเพลง ครบทุกรูปแบบ คือทั้งรายละเอียด และไดนามิค เข้มข้น ย่านความถี่ครบถ้วนครับ
ดังนั้น จึงตอบรับกับระบบเสียงแบบอ็อพเจ็คท์เบส Dolby Atmos และ DTS:X ที่จำเป็นต้องสื่อคุณภาพเสียงรอบทิศอย่างสมจริงที่สุดนี้ ทั้งแกนกว้าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง การโอบล้อม และเสียงมิติแนวดิ่ง
จากการทดสอบ ผมว่า PSB Alpha ชุดใหม่ล่าสุดนี้ ครบถ้วน สมบูรณ์แบบ ในวงเงินที่จะหาแบบนี้ได้ยากแล้วละครับ คือมีความอิ่มในน้ำเสียงตามแบบฉบับของ PSB นับตั้งแต่เดิมมา แต่รุ่นปัจจุบันให้คุณภาพเสียงทางด้านช่วงความถี่กลางจนถึงปลายแหลมสุดได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ชัดเจนมาก เมื่อเข้าไปสู่ความพลิ้วไหวและสวยงาม โดยเฉาะ PSB Alpha T20 เป็นสุดยอดลำโพงตั้งพื้นยุคใหม่ก็ว่าได้ ผมประเมินว่าให้เสียงดีกว่ารุ่นเก่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ราคากลับอยู่ในระดับพื้นฐานมากๆแค่ 23,900 บาท (ฟังทีไร ยกนิ้วให้ทุกครั้ง)
และแผ่นที่บ่งชี้ถึงที่สุดของคำว่าเสียงดี คือ แผ่นบลู-เรย์ คอนเสิร์ต ระบบเสียง Dolby Atmos Hans Zimmer: Live in Prague. 2017 ต้องร้องว้าว! ฟังกับซิสเต็มชุด 5.1.2 ชุดนี้นับว่าคุ้มค่าทั้งคุณภาพเสียง พลัง และการแยกแยะรายละเอียด การโอบล้อมจนถึงลักษณะเสียงในแกนแนวดิ่งอ็อพเจ็คท์เบสเป็นเสียง 3 มิติครบสมบูรณ์ ในทุกรายละเอียดเสียง เราจะได้ความอิ่มเอิบของชิ้นดนตรี เสียงซาวน์ดเอฟเฟ็คท์ไดอะล็อคเสียงสนทนาให้ความสมจริงและพลังที่เหลือเฟือครับ
สุดท้ายแล้ว ผมได้ลองย้อนกลับไปฟังในแบบสเตรีโอโฟนิกธรรมดาด้วย นั่นก็หมายความว่าเราตัดเอาเสียงเซอราวน์ดรอบทิศทางทิ้งออกไปทั้งหมด แล้วพยายามทดลองชมและฟังในฉากในช่วงที่มีทั้งยานอวกาศ เสียงไดอะล็อคนักแสดง รวมทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์
นี่คือบริบทที่นักทดสอบหลายท่านอาจจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ผมกลับมองว่าเมื่อไรก็ตามถ้าปลดระบบเสียงรอบทิศทางมาเป็นระบบสเตอริโอธรรมดา เราจะเห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของทั้งรีซีฟเวอร์และลำโพงคู่หน้าครับ ว่าเขาสามารถทำงานได้เต็มที่เพียงไรถ้าบริบทแรกนี้ดี ทุกอย่างย่อมตามมาด้วยความสมบูรณ์ทั้งซิสเต็มได้ไม่ยาก
นี่คือการบ่งชี้ว่า เริ่มต้นจาก NAD T758 V3 คือปฐมบทแห่งพลังและความสมจริงสำเร็จเกินครึ่ง ที่เหลือคือการสรรหาลำโพงเท่านั้นเอง และการเลือก PSB Alpha Series คือจุดบรรจบกันที่ลงตัวที่สุดครับ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับซิสเต็ม 5.1.2 Dolby Atmos ที่ล้ำสมัยและให้ความบันเทิงไร้ขีดจำกัดจริงๆ ถ้ามีงบรวมๆกันที่หนึ่งแสนบาทบวกลบ ผมคงต้องบอกว่าผมจะไม่พลาดชุดซิสเต็มนี้อย่างแน่นอนครับ