ลมหายใจอนาล็อกที่คงอยู่ NAD C588

44 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่คุ้มค่าคุ่มราคา ในงบประมาณ ไม่เกิน 35,000 บาท จาก NAD จากแบรนด์เครื่องเสียง ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ยุค 70 ยุคที่แอมป์ NAD ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากประเทศ อังกฤษ 

NAD ไม่เคยหยุดนื่งในการพัฒนาเครื่องเสียงที่ให้ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป ไม่ว่าจะเป็นตระกูลคลาสสิคซีรี่ย์ไปจนถึงมาสเตอร์ซีรี่ย์ และการกลับมาได้รับความนิยม ของแผ่นเสียง หรือแผ่นไวนีล แล้วแต่คนจะเรียกขานกัน ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ทั้งแฟนๆ NAD ในบ้านเราที่เรียกร้อง ให้ทางโคไน้ซ์ ให้นำเข้ามาจำหน่าย แต่ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมเฝ้าดูการตอบรับ แต่กลับรู้สึกเสียดายที่การตอบรับแฟนๆ ที่พลาดการเป็นเจ้าของ เจ้า NAD C588 ตัวท็อปตัวนี้ไป อาจเป็นหลายคนยังไม่ทราบว่าทางโคไน้ซ์ได้นำเข้าจำหน่ายแล้วกว่า 2ปี  ทั้งๆที่น้ำเสียง เทิร์นเทเบิลตัวนี้ เท่าที่ผมได้ทดลองฟังเบื้องต้น เทียบกว่ากับเครื่องเล่นระดับเดียวกันในราคา 35,000 บาท ไปจนถึงระดับราคา 4-50,000 บาท เอาเป็นว่าไม่แพ้ทั้งในเรื่องน้ำเสียงและความคุ้มค่าแต่ประการใดเลยทีเดียว

วันนี้เลยถือโอกาสเอารีวิว เครื่องเล่นแผ่นเสียง NAD C588 จากทางนิตยสาร HiFi Choice ที่ได้เคยรีวิวไว้ และกล่าวชื่นชม ถึงกับให้รางวัล HiFi Choice Recommended ผมก็งงว่า เรากำลังพลาดอะไรไปเหรอ ถึงปล่อยให้ 2ปีที่ผ่านมา เครื่องเล่นแผ่นเสียงนี้ควรเข้าถึง เหล่านักเล่นแผ่นในบ้านเรามากกว่านี้ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะนำเครื่องนี้มารีวิวแบบถึงพริกถึงขิงให้ได้อ่านกันครับ แต่ตอนนี้อ่านการรีวิวจาก มืออาชีพที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกกันก่อนครับ  

 

                         " แม้ว่า NAD จะเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดเครื่องเสียงไฮไฟในเกือบทุกด้านในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แต่มีองค์ประกอบหนึ่งที่ NAD ไม่เคยสร้างชื่อเสียงที่ยั่งยืนได้ นั่นคือ เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องเล่นแผ่นเสียงของ NAD ทำงานได้ดี แต่มีข้อยกเว้นที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวคือรุ่น 5120 ที่สามารถดึงดูดจินตนาการของสาธารณชนได้ ตั้งแต่รุ่น 101 และ 202 ในยุค 70 ผ่านรุ่น 5020A และ 5025 ที่มาจาก Garrard รุ่น 5080 ที่ใช้ BSR แบบไดเร็กไดรฟ์ รุ่น 5125 ที่ลึกลับ และรุ่น 533, C 552, C 555 และ C 556 ที่ผลิตโดย Rega NAD ไม่ได้ขาดความพยายามอย่างแน่นอน ข้อยกเว้นที่โดดเด่นคือรุ่น 5120 ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่น่าจดจำที่สุดของบริษัท"

หลังจากปัญหาเริ่มต้นเนื่องจากการออกแบบโทนอาร์มที่ไม่เหมือนใคร รุ่นที่ได้รับการออกแบบใหม่ก็ครองตำแหน่งแชมป์ในช่วงต้นถึ งกลางยุค 80 ในราคา 99 ปอนด์ ผลิตโดย Tesla (ไม่ใช่ Tesla ที่เรารู้จัก) ในเชโกสโลวะเกีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในขณะนั้น และบริษัทถูกซื้อกิจการในภายหลังและกลายเป็น Pro-Ject ในที่สุด คุณอาจจะรู้แล้ว แต่ถ้ายังไม่รู้ ฉันไม่คิดว่าฉันจะสปอยล์เนื้อเรื่องเทียบเท่ากับการเปิดเผยตัวฆาตกรในเรื่อง The Mousetrap ของอกาธา คริสตี้ .

โดยการเปิดเผยว่า C 588 ผลิตโดย Pro-Ject ด้วยเหตุนี้ NAD จึงกลับมาสู่ความสำเร็จในด้านไวนิลในช่วงยุค 80 อีกครั้ง ซึ่งทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นใหม่นี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับ นักเล่นยุคใหม่นี้


ในกรณีของ C 588 คือเป็นการออกแบบแบบขับเคลื่อนด้วยสายพานสองสปีด โดยมีแท่น MDF สีดำด้านที่แข็งแรงพร้อมมุมโค้งมนที่สวยงาม วางอยู่บนขาโลหะมีทรงกรวยแหลม ทั้งสี่ข้าง รวมเอา 'การแยกแบบปรับแต่ง' เข้าไว้ด้วยกัน ติดตั้งอยู่ในแท่นคือมอเตอร์ AC ที่แม่นยำ ขับเคลื่อนด้วยวงจรควบคุมที่เป็นแหล่งจ่ายไฟ DC 15V จาก PSU แบบ wall-wart และสร้างสัญญาณ AC ที่เสถียรและราบรื่นเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ และจะสร้างความถี่เพียงความถี่เดียว ดังนั้นการเปลี่ยนความเร็วรอบของการเล่นแผ่นแต่ละแบบ คุณจึงต้องทำการปรับเลื่อนสายพานด้วยตนเอง คุณสามารถเปลี่ยนพู่เลย์เพื่อให้ได้ตัวเลือก 78rpm ได้ (ของบ้านเราจะได้แค่ 33 1/2 และ 45 rpm)  บนจานรองอัลลอยด์มีจานแก้วหนา 10 มม. พร้อมแผ่นสักหลาดของตัวเอง


โทนอาร์มนี้เป็นเหมือน 'Greatest hits' ของทาง Pro-Ject ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี มันอยู่บนพื้นฐานของการประกอบตลับลูกปืนแบบ dual pivoted แบบดั้งเดิม โดยมีตัวแขนหรือโทนอาร์มคาร์บอนไฟเบอร์ และที่ปลายตัวยึดเฮดเชลล์จะเป็นแบบยึดคงที่ และมีความสวยเงางาม สกรูใกล้กับเฮดเชลล์ และสามารถคลายออกได้เพื่อให้ แขนทำการหมุนเพื่อตั้งค่า azimuth ได้อย่างถูกต้อง และสามารถยกและลดทั้งหมดเพื่อปรับ VTA ให้เหมาะสม


C 588 มาพร้อมกับเฮดเชลล์ Ortofon 2M Red (HFC 345) ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้ามาแล้ว มีคู่มือการตั้งค่าอย่างรวดเร็ว และเว็บไซต์ของบริษัทมีคู่มื อการใช้งานฉบับเต็มให้ดาวน์โหลด ซึ่งชัดเจนกว่ามากและให้ รายละเอียดในปริมาณที่เหมาะสม กล่องบรรจุภัณฑ์ยังมี protractor สำหรับตั้งค่าหัวเข็ม และเครื่องชั่งน้ำหนักหัวเข็มที่มีตรา NAD อย่างดี หากคุณต้องการปรับแต่งหรือต้องการลองเปลี่ยนเฮดเชลล์แบบอื่นได้ มีฝาปิดให้ แต่ไม่มีมุมโค้งมนเหมือนตัวแท่น



คุณภาพเสียง
เมื่อ C 588 อุ่นเครื่องเต็มที่และหัวเข็มวางอยู่ในร่องแผ่นเสียง เครื่องเล่นจะให้เสียงที่หนักแน่นและไดนามิกที่เต็มที่ หัว Ortofon 2M Red อาจจะเป็นส่วนที่ดีของสิ่งนี้ เนื่องจากเพลงมันมีชีวิตชีวา มีความชัดเจนทุกรายละเอียด และมีความสนุกสนานเพลิดเพลืนในท่วงทำนอง และชุดอุปกรณ์ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้ ในระดับบนสุดของ NAD จึงให้รายละเอียดที่มากมาย แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ามันพยายามมากเกินไปหรือถูกบังคับให้เป็น ปลายเสียงแหลมใสสะอาด และแน่นแม่นยำ เครื่องเล่นมีความไวต่อแผ่นที่มีการบันทึกที่ไม่ดีเล็กน้อย และไม่สามารถจัดการกับมันได้จริงๆ เพื่อเผยให้เห็นรายละเอียดที่อยู่เหนือกว่า ตัวอย่างเช่น Bubbles จาก Biffy Clyro's MTV Unplugged LP การบันทึกเสียงมานั้นมีเวทีที่กว้าง และมี รายละเอียด แต่ส่วนเวทีไม่ค่อยยกสูงสักเท่าไรและมีกระจาย และ NAD C588 พยายามจะจัดการมันให้อยู่มัด


NAD ให้ในสิ่งที่ดีกว่าจากการบันทึกและรับมือมัน ในแทร็ค Solar จาก Ben Sidran's Bop City LP กระโดดไปพร้อมกับความกระตือรือร้นและความรู้สึกที่แม่นยำของจังหวะ ฉาบดังขึ้นอย่างแรง และเปียโนก็เรียงเป็นชั้นอย่างสวยงามอยู่ข้างหลัง โดยที่แซกโซโฟนอัลโตของ Phil Woods อยู่ด้านหน้าเป็นตัวนำอย่างชัดเจน ในความเป็นจริง C 588 พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างเวทีเสียงที่กว้างอย่างน่าอัศจรรย์ โดยไม่มีหลุมหรือช่องว่างในส่วนตรงกลาง NAD ยังสร้างเวทีเสียงสเตอริโอที่ทั่วถึงและมีความสวยงาม เตือนแสดงให้เราเห็นว่าจริงๆ แล้วว่าไวนิลนั้นดีเลิศแค่ไหน แม้ในระดับราคาเครื่องเล่ยที่ไม่แพงเลย
ในแง่ของความลึกของเวทีเสียง C 588 ก็ทำได้ดีเช่นกัน ในตอนแรกฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างมีแค่สองมิติ แต่การฟังแผ่นเพิ่มเติม กลับเผยให้เห็นว่าความกว้างของเวทีนั้นดีมาก มันแสดงเวทีจากด้านหน้าไปด้านหลัง ซึ่งจริงๆ แล้วมีความสามารถอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างในแทร็ค Butterflies ของ Kacey Musgraves แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน แม้ว่า NAD อาจโชว์รายละเอียดไปด้านหน้าไปสู่ยังเวทีด้านหลังได้ดีเท่าในบางรุ่น แต่ก็ไม่มีปัญหาในการแสดงทั้งเวทีเสียงมีความเด่นชัด


มันยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถ ที่ตอบสนองที่สูงมากๆไปยังในระดับต่ำสุดอีกครั้ง ซึ่งในตอนแรก อาจฟังดูเหมือนว่ามันจะเบาเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วทุกสิ่งที่คุณต้องได้ยินนั้นมีอยู่ และถูกต้อง ไม่มีเสียงสะท้อนที่ไม่ต้องการหรือการแกว่งไปมา และเมื่อคุณฟังเพลงจริงๆ ทุกอย่างก็อยู่ที่นั่น แทร็ค Waiting In Vain ของ Bob Marley ไม่ได้มีความหม่นมัวไปพร้อมกับมวลเสียงต่ำที่ไม่ชัดเจนเหมือนที่มันทำได้ ในบางเครื่อง แต่ NAD นั้นกลับมีโน้ตเบสที่ถูกกำหนดไว้อย่างเหมาะสม และมีจังหวะที่แม่นยำ และหนักแน่น

บทสรุป
                     การที่จะกลับไปเชื่อมโยงยังรุ่น 5120 ที่ประสบความสำเร็จของ NAD นั้นมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจาก NAD C 588 สืบสานตำนานของรุ่นก่อนได้อย่างน่าชื่นชม และได้พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนในหลายๆ ด้านด้วยเช่นกัน C 588 เป็นแพ็คเกจที่ได้รับการคิดมาอย่างดีในราคาที่ค้มค่าในเครื่องระดับราคาเดียวกัน ซึ่งสมควรได้รับความชื่นชมในการทำผลงานได้ดีจริงๆ  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้